มิราเคิลไทชิ คืออะไร


 


มิราเคิลไทชิ มีต้นกำเนิดมาจากอะไร
 

คำว่า "ไทชิ" (Taichi) ชื่อเรียกภาษาอังกฤษ มาจากภาษาจีนกลาง ไท่จี๋ (อักษรจีน) :太極; 

พินอิน : tai chiประเทศจีนเป็นผู้กำเนิดยาวนานกว่า ๓,๐๐๐ปี 

 

 

ทางการแพทย์จีนเชื่อว่า  

เป็นการบำรุงสุขภาพ/สร้างภูมิต้านทานโรค มีอายุยืนนานอย่างมีความสุข/สมรรถนะทางเพศไม่เสื่อม

สายศาสนา เชื่อว่า 

การเข้าถึงสภาวธรรมขั้นสูงสุด          

ฝ่ายพุทธศาสนา (มหายาน) หมายถึงการเข้าพุทธภาวะหรือ เฉิงโฝ  (成佛)

ฝ่ายเต๋า หมายถึงการหลุดพ้นทางจิตวิญญาณหรือ เสินทง (神通)

ทั้งสองสายล้วนมุ่งหาหนทางที่จะชำระตน ให้ข้ามพ้นการเวียนว่ายตายเกิด ดังที่ฝ่ายศาสนาพุทธเรียกว่า "นิพพาน" ศาสนาเต๋า เรียกว่า เทียนเหรินเหออี (天人合一) แปลว่าคนกับฟ้ารวมกันเป็นหนึ่ง นอกจากนี้ยังมี สายศิลปะการต่อสู้จีน สายปรัชญาเมธี มวยภายนอก เป็นต้น

ถ้าพิจารณาด้านความเชื่อ ทางอารยะธรรม/วัฒนะธรรม/ประเพณี ผลการฝึกไทชิของสายต่างๆ จนถึงปัจจุบันก็ได้รับการยอมรับอย่างไม่เสื่อมคลาย ต่อมามีผลวิจัยทางการแพทย์จากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ก็ส่งผลให้มีการยอมรับทางวิทยาศาสตร์ 

คำภีร์แซ-เมี่ย-ฟา-ฮวบ ของการบำเพ็ญเพียรของจีนบทที่ ๒ กล่าวว่า

ธาตุแท้เดิมของมนุษย์ทุกคนก่อน เกิดมานั้นย่อมบริสุทธิ์ ตอนเป็นทารกนอนขดอยู่ในครรภ์มารดา ยังไม่หายใจ ไม่ได้กินอะไร แต่ร่างกายก็เจริญเติบโตขึ้นตามลำดับ จาก "พลังบริสุทธิ์ก่อนกำเนิด" ซึ่งรวมผสมกลมเกลียวกันอยู่กับธาตุภูมิหรือสันดานเดิม จนกระทั่งคลอดออกจากครรภ์มารดา สายสะดือถูกตัดขาด พลังก็แยกออกจากกันไปทำหน้าที่ตามภาระของตน

      เส้นพลังลมปราณก็เริ่มขับเคลื่อนเลือดลมไปทั่วร่างกาย ทำให้ธาตุภูมิเดิมถูกพลังหลังเกิดเหนี่ยวนำไปพร้อมกับลมหายใจ ไปสู่แหล่งพำนักที่หัวใจ ทำให้โลหิตหมุนเวียนดี อวัยวะภายในแข็งแรงดี สร้างภูมิต้านทานโรค พลังชีวิตจะเคลื่อนตัวลงสู่เบื้องล่างสะสมพำนักบริเวณหน้าท้อง  ทำให้เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วว่องไว มีชีวิตชีวา แต่เนื่องจากพลังบริสุทธิ์ทั้งสองได้ถูกครอบงำ และตกอยู่ในอำนาจของความรู้สึกและอารมณ์ การเรียนรู้ วิถีชีวิตประจำวันหลังเกิดมา ทำให้พลังที่เคยบริสุทธิ์มีอันต้องเสื่อม และแปรสภาพไปจนคนเราเจริญเติบโต และเปลี่ยนไปอีกเมื่อย่างเข้าสู่วัยชรา จนกระทั่งพลังที่เคยบริสุทธิ์ทั้งสองนี้ ไม่มีวันจะกลับมารวมกันเป็นหนึ่งและบริสุทธิ์ได้ดังเดิมอีก จึงเป็นที่มาของความเสื่อมทั้งร่างกาย จิตใจและเจ็บป่วยในที่สุด

เพราะฉะนั้นในชีวิตของความเป็นมนุษย์นี้ หน้าที่ที่แท้จริงของคนเราคือ พยายามหาทางกลับคืนสู่ธรรมชาติเดิม และปรับคืนสภาพความสมดุลของพลังให้มีสภาวะดังเดิมเหมือนก่อนคลอดออกจากครรภ์มารดา  

เริ่มต้นนำ "พลังบริสุทธิ์ทั้งสอง" กลับมาอีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่วันนี้

"พลังบริสุทธิ์จะพ้นจากการครอบงำ เจริญงอกงามแข็งแรงเหมือนดังเดิมได้ ต้องเกิดจากการฝึกพัฒนาลมหายใจเท่านั้น" 

มิราเคิลไทชิ คือการฝึกพัฒนาลมหายใจ ศิลปะการเคลื่อนไหวเพื่อสุขภาพกายและใจ 

หลักการฝึกขั้นพื้นฐาน

๑.ฝึกพัฒนาลมหายใจเข้า ทางจมูกให้ลึก ตั้งแต่ ๔-๖ วินาทีตามเสียง "วี" และเสียงดนตรี เพื่อนำ อากาศ (ออกซิเจน) แร่ธาตุต่างๆ ที่เกิดจากการสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis) เคลื่อนเข้าสู่ภายในร่างกาย เกิดการเผาผลาญ (metabolism) เพื่อนำออกซิเจน/เลือด และสารอาหารไปเลี้ยงเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย และนำเอาของเสีย ที่เนื้อเยื่อต่างๆผลิตขึ้นไปยังอวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัดของเสียออกจากร่างกาย

      หายใจออก ทางปากให้ยาว ตั้งแต่ ๔-๗ วินาที ตามเสียง "วู" และตามจังหวะดนตรี เพื่อระบายคาร์บอนไดออกไซด์ ความวิตกกังวล ความตึงเครียดต่างๆ ออกจากร่างกายให้มากที่สุด ทำให้เนื้อเยื่อและเซลล์ที่ดี และเกิดใหม่ มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สร้างภูมิคุ้มกัน  ควบคุมไม่ให้เนื้อเยื่อและเซลล์ที่มีเชื้อโรคเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนได้ จึงเป็นการมุ่งเน้นไปยังเนื้อเยื่อและเซลล์ส่วนที่ดีและเกิดใหม่ มากกว่าการมุ่งเน้นกำจัดเนื้อเยื่อและเซลล์ที่มีเชื้อโรค 

๒.ฝึกการเคลื่อนไหวตามหลักปรัชญาแห่งความสมดุลภายในสู่ภายนอก หลักายวิภาคศาสตร์, สรีรวิทยา, พลศาสตร์ และจิตวิทยา ด้วยศิลปะการเคลื่อนไหวเพื่อให้สมอง ประสาท กล้ามเนื้อและ กระดูก มีการส่ง/รับข้อมูลและเคลื่อนไหวประสานกันแบบองค์รวม (Holistic Health) ป้องกันการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า กระดูกสันหลังส่วนเอว ทรวงอก และส่วนคอ รวมทั้งสร้างความสมบูรณ์แข็งแรงอย่างสมดุลตามธรรมชาติ

 ๓.ฝึกสติ (ความรู้สึกตัวในปัจจุบัน) สมาธิ (ความผ่อนคลาย) พลังภายในบำรุงสุขภาพ (พลังบริสุทธิ์ก่อนกำเนิด)

 

         

จึงเป็นที่มาของมิราเคิลไทชิ  

"การฝึกพัฒนาลมหายใจ ศิลปะการเคลื่อนไหวเพื่อสุขภาพกายและใจ"

ทำให้ผ่อนคลายกาย/สบายจิต ลดความดันโลหิต/เพิ่มพลัง เสริมความหนุ่ม/คงความสาวยาวนาน 

            จากประสบการณ์ การฝึกด้วยตนเองและฝึกสอน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๔๐  จนถึงปัจจุบัน ทำให้เข้าใจปัญหาและอุปสรรคของตนเอง ในการฝึกได้เป็นอย่างดี ต้องอดทน/ขยัน จึงสามารถฝึกอย่างสม่ำเสมอ/ต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ รู้สึกว่า

            "หากไม่อดทนและเชื่อฟังคำสอนของอาจารย์ ตั้งแต่วันแรกคงไม่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงอย่างแน่นอน" 

    อยากจะบอกทุกท่านว่า "มีบุญมากที่ได้ฝึกวิชานี้เป็นวิชาที่สำคัญที่สุดต่อสุขภาพกายและจิต จิตวิญญาณ ทำให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงอย่างแท้จริงตลอดไปชั่วชีวิต" รวมทั้งยังเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ จุดประกายการฝึกให้กับผู้อื่น เกิดความรู้ ความเข้าใจ ฝึกอย่างจริงจังเพิ่มมากขึ้น

            การได้พบปะผู้คนเป็นจำนวนมากทุกเพศทุกวัย ประชาชนทั่วไป เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ ผู้บริหาร-พนักงานหน่วยงานเอกชน นักธุรกิจ สมาชิกชมรมต่างๆ สมาชิกสถานออกกำลังกายที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ/ต่างจังหวัด รวมทั้งได้ร่วมโครงการวิจัยเกี่ยวกับการฝึกมิราเคิลไทชิ ทำให้ทราบถึงปัญหา/อุปสรรค ที่ทำให้การออกกำลังกายไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เช่น ไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสำคัญของการฝึก ประโยชน์ที่ได้รับมีอะไรบ้าง การฝึกไม่สม่ำเสมอตามใจตัวเองไม่มีตัวชี้วัดความสมบูรณ์แข็งแรง (Fitness) สูญเสียเวลา/เงินทอง (ค่าสมาชิก ค่าเดินทางและอื่น ๆ) ฯลฯ

         

ท่านสามารถคลิ๊กที่นี่เพื่ออ่านงานวิจัยเกี่ยวกับมิราเคิลไทชิ 

ควบคุมการฝึกสอนโดยใช้ ระบบ TPRV ซึ่งคิดค้นโดย อาจารย์สมศักดิ์ อินทร์เผือก ผู้ก่อตั้งมิราเคิลไทชิ เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมมือกัน ระหว่างมิราเคิลไทชิกับท่านที่เข้ารับการฝึก จะได้รับประโยชน์ตามเป้าหมายอย่างมีคุณภาพ  

 

หากท่าน "ฝึกพัฒนาลมหายใจขั้นพื้นฐาน" อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ ท่านจะได้รับประโยชน์ ดังนี้

 

ด้านร่างกาย

  1. การหายใจ: หายใจเข้าได้ลึกอย่างเป็นธรรมชาติ  สามารถนำอากาศ แร่ธาตุต่างๆและเลือดไปยังเนื้อเยื่อ เซลล์สมอง ประสาท กล้ามเนื้อและกระดูกทุกข้อ
  2. เนื้อเยื่อและเซลล์: มีความสมบูรณ์ แข็งแรง ดุจเซลล์ของทารกน้อยในครรภ์มารดา
  3. สมองและประสาท: ทุกส่วนจะผ่อนคลายเพราะได้รับอากาศและแร่ธาตุจากพลังธรรมชาติที่จักรวาลส่งมาให้ทุกวัน หรือมาจากการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช 
  4. ประสาท: มีประสิทธิภาพในการรับข้อมูล รับคำสั่งจากสมอง ตลอดจนรับความรู้สึกต่างๆ อย่างมีพลังมหาศาล (พลังภายในหรือพลังจิตใต้สำนึก) จนพลังบริสุทธิ์ก่อนกำเนิดพ้นจากความครอบงำ ทำให้บำรุงสุขภาพสมบูรณ์ด้วยตัวเอง
  5. กล้ามเนื้อ: เกิดกระบวนการเปลี่ยนพลังงานเคมีให้เป็นพลังงานกล คลายปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ มีความสมบูรณ์แข็งแรง มีความยืดหยุ่นดี
  6. กระดูก: ช่วยเพิ่มสเตมเซลล์ (Stem Cells) หรือเซลล์ต้นกำเนิดในร่างกาย โดยออกซิเจนจะกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนย้ายของเซลล์ต้นกำเนิดออกจากไขกระดูก ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดของหลอดเลือดที่มีส่วนสำคัญในการสร้างเส้นเลือดขึ้นใหม่ทดแทนในส่วนที่ขาดเลือดหรือบริเวณที่เป็นแผล

 

ด้านจิตใจ

  1. การฝึกสติ (consciousness) ให้จดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้า/ออก ตลอดเวลา ควบคุมจิตไม่ให้ฟุ้งฟ่านในขณะฝึก จนเกิดความสงบในการเคลื่อนไหว
  2. การฝึกสมาธิ (meditation) ขณะฝึก สมอง ประสาท กล้ามเนื้อและกระดูก อวัยวะทุกส่วนจะผ่อนคลาย เป็นเวลาขณะที่เรามีความสุขใจ จะรู้สึกเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ขณะรอคอยบางสิ่งบางอย่างหรือเจ็บป่วย มีความทุกข์ใจ จะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า สมาธิจึงเป็นความสุขทางกายและใจอย่างแท้จริงของมนุษย์
  3. พลังบริสุทธิ์ก่อนกำเนิด พ้นจากความครอบงำ บำรุงสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงกลับคืนสู่ธรรมชาติ และปรับคืนสภาพความสมดุลของพลังให้มีสภาวะดังเดิม เหมือนก่อนคลอดออกจากครรภ์มารดา ทำให้มีอายุยืนยาวอย่างมีความสุข

 

ด้านจิตวิญญาณ

จิตของมนุษย์ทุกคนมีความบริสุทธิ์มาตั้งแต่เกิด แต่เนื่องจากถูกครอบงำและตกอยู่ในอำนาจของความรู้สึกและอารมณ์ รวมถึงการเรียนรู้วิถีชีวิตประจำวันภายหลังที่เกิดมา ทำให้จิตใจไม่บริสุทธิ์ดังเดิม มีอารมณ์ มีความฟุ้งซ่าน วิตกกังวล เศร้าหมอง หากมีการฝึกมิราเคิล ไทชิอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ จะได้รับประโยชน์ดังนี้

  1. ยกระดับและพัฒนาจิตวิญญาณกลับมาบริสุทธิ์ดังเดิมก่อนที่จะสิ้นอายุขัย 
  2. การเข้าถึงสภาวธรรมขั้นสูงสุด ตามความเชื่อในสายของศาสนาดังนี้  
  • ฝ่ายพุทธศาสนา (มหายาน) หมายถึงการเข้าพุทธภาวะหรือ เฉิงโฝ  (成佛)
  • ฝ่ายเต๋า หมายถึงการหลุดพ้นทางจิตวิญญาณหรือ เสินทง (神通) 

ทั้งสองสายล้วนมุ่งหาหนทางที่จะชำระตนให้ข้ามพ้นการเวียนว่ายตายเกิด ดังที่ฝ่ายศาสนาพุทธเรียกว่า "นิพพาน"  และศาสนาเต๋า เรียกว่า เทียนเหรินเหออี (天人合一) แปลว่าคนกับฟ้ารวมกันเป็นหนึ่ง


นโยบายความเป็นส่วนตัว | เงื่อนไขการใช้งาน

ผู้สนับสนุน


Copyright © miracle-taichi.com